วันจันทร์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

เลือกโรงเรียนให้ลูกอย่างไรดี ?

เลือกโรงเรียนให้ลูกอย่างไรดี ?
โรงเรียนอนุบาลมีส่วนสำคัญในการส่งเสริมพัฒนาการ และเตรียมความพร้อมของลูกให้เติบโตไปสู่สังคมที่ใหญ่ขึ้น พ่อแม่หลายคนจึงกังวลใจว่า ควรเริ่มต้นเลือกโรงเรียนอย่างไร เพื่อให้ลูกเรียนอย่างมีความสุขที่สุด และตัวคุณเองก็สบายใจที่สุดเช่นกัน วันนี้เราจึงขอแบ่งปันความรู้ เปิดประตูสู่การเลือกโรงเรียนแรกของลูก เพื่อให้คุณพ่อคุณแม่ได้นำไปใช้เป็นแนวทางกันค่ะ

 

1. แนวการสอนแบบไหน ที่ “ใช่” สำหรับลูก

ก่อนจะตัดสินใจเลือกโรงเรียนใด คุณพ่อคุณแม่ควรทำการบ้านเกี่ยวกับแนวการสอนของโรงเรียนนั้นๆ  ไว้ให้ดี และพาเจ้าตัวน้อยไปสำรวจโรงเรียนด้วยทุกครั้ง เพื่อพิจารณาว่าเหมาะสมกับอุปนิสัย และลูกมีความชอบด้วยหรือไม่ ซึ่งในปัจจุบันแนวการเรียนการสอนในระดับปฐมวัยแบ่งเป็นประเภทต่างๆ  ได้ ดังนี้

โรงเรียนที่เน้นเร่งเรียนเขียนอ่าน เป็นโรงเรียนที่เน้นเรื่องวิชาการเป็นหลัก เด็กๆ ที่เรียนจบอนุบาล 3 จากโรงเรียนประเภทนี้ จะอ่านออกเขียนได้อย่างคล่องแคล่ว และสามารถนำความรู้ไปใช้สอบแข่งขันเข้าเรียนต่อในโรงเรียนระดับประถมศึกษาที่มุ่งหวังไว้

โรงเรียนทางเลือก เป็นโรงเรียนแนวบูรณาการ ที่เน้นเรื่องการเตรียมความพร้อม และส่งเสริมพัฒนาการต่างๆ ตามวัย จึงมักมีกิจกรรมให้เด็กๆ เล่นหรือทำทุกวัน และไม่เน้นเรื่องวิชาการมากนัก ซึ่งโรงเรียนทางเลือกก็ยังแยกย่อยตามปรัชญาการศึกษาที่ต่างกันไปอีก เช่น โรงเรียนแนววอลดอร์ฟ แนวมอนเตสเซอรี่ แนววิถีพุทธ แนวโครงการ แนวนีโออิวแมนนิส แนวไฮสโคป เป็นต้น ซึ่งคุณพ่อคุณแม่ที่ต้องการให้ลูกเรียนในโรงเรียนทางเลือกก็ควรศึกษารายละเอียดการเรียนการสอนของแต่ละแนวให้กระจ่างก่อนก็จะส่งผลดีแก่ลูกไม่น้อยทีเดียว

โรงเรียนสองภาษา หรือโรงเรียน Bilingual เป็นโรงเรียนที่สอนด้วยภาษาไทย และภาษาอังกฤษ โดยใช้หลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการเป็นหลัก ซึ่งบางโรงเรียนอาจมีภาษาจีนเสริมเข้าไปด้วย เน้นการเรียนวิชาการแบบปนเล่น มีกิจกรรมให้เด็กๆ ได้ปฏิบัติตลอด เพื่อฝึกฝนการใช้ภาษาให้คล่องแคล่วอยู่เสมอ

โรงเรียนนานาชาติ เป็นโรงเรียนที่ใช้หลักสูตรการศึกษาของต่างประเทศ ซึ่งมีทั้งหลักสูตรระบบอเมริกัน หลักสูตรระบบอังกฤษ และหลักสูตรเฉพาะของแต่ละชาติ ที่จะสอนโดยสื่อสารเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด เด็กที่เรียบจบในโรงเรียนนี้จะมีสำเนียงการพูดภาษาอังกฤษที่ชัดเจน แต่อาจจะใช้ภาษาไทยไม่คล่องเหมือนเด็กในโรงเรียนอื่นๆ


เลือกโรงเรียนให้ลูก


2. งบประมาณต้องรับได้ ค่าใช้จ่ายไม่สะดุด

เมื่อเลือกโรงเรียนที่มีแนวทางการศึกษาที่ตรงใจได้แล้ว คุณพ่อคุณแม่ก็ต้องเตรียมเช็กค่าใช้จ่ายต่างๆ  ให้ครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นค่าเทอม ค่าแรกเข้า ค่าชุดนักเรียน อุปกรณ์การเรียน หนังสือ ค่ากิจกรรมพิเศษต่างๆ ค่าอาหารกลางวัน ค่าเรียนพิเศษ ค่าดูแลลูกในช่วงหลังเลิกเรียน ค่ารถรับส่งในกรณีที่พ่อแม่ไม่สามารถไปรับส่งลูกได้เอง และนโยบายการชำระเงินว่าต้องจ่ายเป็นรายเทอม หรือรายปี ซึ่งบางแห่งสามารถแบ่งชำระเป็นรายเดือนได้อีกด้วย เพื่อให้สามารถวางแผนงบประมาณส่วนนี้ได้อย่างมีระบบ และควรเลือกโรงเรียนที่มีค่าใช้จ่ายเหมาะสมกับรายได้ของคุณพ่อคุณแม่ เพื่อไม่ทำให้ครอบครัวต้องสะดุดที่ต้องแบกรับภาระในเรื่องนี้อีกด้วย

3. ระยะทางเหมาะสม อารมณ์ดีเมื่อไปโรงเรียน

เป็นอีกเรื่องสำคัญที่ต้องคำนึงถึง โดยเฉพาะครอบครัวคนเมืองที่ต้องประสบกับการจราจรติดขัดทั้งตอนเช้าและตอนเย็น การเลือกโรงเรียนใกล้บ้าน ในกรณีที่บ้านมีคนอยู่ตลอด หรือใกล้ที่ทำงาน หากเป็นครอบครัวเดี่ยวที่คุณพ่อคุณแม่ต้องออกไปทำงานนอกบ้านทุกวัน ก็จะช่วยประหยัดเวลา และไม่ทำให้ลูกเหนื่อยในการเดินทาง ซึ่งก่อนจะเลือกโรงเรียนใด คุณพ่อคุณแม่ควรลองสำรวจเส้นทางในช่วงที่ต้องรับ-ส่งลูก เพื่อคำนวณเวลาที่ต้องใช้ในแต่ละวันให้ดี

4. ต้องปลอดภัย และสะอาด โภชนาการต้องดี

คุณพ่อคุณแม่ควรไปเยี่ยมชมสถานที่จริงว่า โรงเรียนให้ความสำคัญกับเรื่องเหล่านี้มากน้อยเพียงใด โดยสังเกตความเคร่งครัดของ รปภ. ในการตรวจสอบบุคคลภายนอกก่อนเข้าโรงเรียน ผู้ปกครองที่มารับลูกเองควรมีบัตรประจำตัวแสดงตนทุกครั้ง จำนวนกล้องวงจรปิดภายในโรงเรียนมีจำนวนเพียงพอและใช้งานได้จริง อาหารกลางวัน และอาหารว่างถูกหลักโภชนาการ อุปกรณ์ของใช้ที่เป็นของส่วนรวม เช่น ห้องน้ำ ตู้น้ำดื่ม จานชาม แก้วน้ำ ของเล่นต่างๆ  โต๊ะ เก้าอี้ อาคารเรียน ห้องเรียน ต้องสะอาดเรียบร้อย ไม่เป็นแหล่งก่อโรคติดต่อของเด็กๆ ถึงแม้จะเป็นเรื่องจุกจิก แต่รายละเอียดเหล่านี้ล้วนสำคัญที่จะทำให้ลูกเรียนรู้ได้อย่างมีความสุข ปลอดภัย และไม่เจ็บป่วยได้ง่ายเมื่อมาโรงเรียน

5. สิ่งแวดล้อมดี ลูกแฮปปี้ อยากไปเรียนทุกวัน

สังเกตได้จากการจัดบรรยากาศภายในโรงเรียนที่โปร่งสบาย ให้ความรู้สึกอบอุ่นเป็นกันเอง คุณครูยิ้มแย้มทักทายกับเด็กๆ มีสนามหญ้า หรือสนามเด็กเล่นให้เด็กได้เล่นร่วมกันกับเพื่อนในยามว่าง กิจกรรมการเรียนการสอนสนุกสนาน ไม่เคร่งเครียด อัตราส่วนของครูและนักเรียนมีความเหมาะสม อุปกรณ์ของเล่น หรือสื่อการเรียนการสอนมีความดึงดูด ไม่ชำรุด และสะอาด หากโรงเรียนใดมีสิ่งแวดล้อมที่ดีและน่าสนุกเช่นนี้ รับรองได้เลยว่า ลูกน้อยของคุณจะเรียกร้องให้ไปส่งที่โรงเรียนแทบทุกวันอย่างแน่นอน

เมื่อเลือกโรงเรียนได้แล้ว คุณพ่อคุณแม่อย่าลืมให้ความสำคัญทั้งทางร่างกาย อารมณ์ และจิตใจของลูก เพื่อพร้อมรับสังคมใหม่ และเพื่อนใหม่ที่กำลังจะมาถึงด้วย โดยเฉพาะการดูแลเอาใส่ใจในเรื่องโภชนาการที่ถูกหลัก ซึ่งจะทำให้ลูกเติบโต แข็งแรง สดใส และมีพัฒนาการสมวัย พร้อมเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพทุกวัน

…เพราะโภชนาการที่ดี คือ พื้นฐานที่ดีของลูกในทุกๆ ด้าน…




พบกับของเล่นเด็ก ของใช้เด็ก สินค้าน่ารักๆ ราคาถูกที่สุดได้ที่  
เด็ก พัฒนาการลูก เลี้ยงลูก เลี้ยงเด็ก ลูกน้อย พัฒนาการเด็ก ของเล่นเด็ก
โภชนาการที่ดีสำหรับเด็ก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น